
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจทางการเงินระดับโลก อาจกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่มูลค่าของมันถูกลดทอนอย่างมีกลยุทธ์จากภายใน
และคนที่อยู่ศูนย์กลางของเรื่องนี้ก็คือ? โดนัลด์ ทรัมป์
ในขณะที่ทรัมป์เดินหน้าวางแผนสำหรับอีกสี่ปีข้างหน้า มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเขาอาจกำลังกดดันธนาคารกลางสหรัฐให้ลดค่าเงินดอลลาร์อย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่ในเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นอาวุธทางการเมืองด้วย
ดังนั้น ทรัมป์กำลังทำให้ดอลลาร์สหรัฐร่วงโดยตั้งใจจริงหรือไม่? มาดูหลักฐานกัน
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างให้ทรัมป์ได้
การลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐลงประมาณ 25–30% ภายในสองสามปีข้างหน้า อาจฟังดูรุนแรง แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการโดยตรง
เหตุผลมีดังนี้:
- การขาดดุลการค้าลดลง: ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงจะทำให้สินค้าส่งออกของสหรัฐมีราคาถูกลงและแข่งขันได้ดีขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งช่วยลดช่องว่างการค้าและสร้างผลงานให้ทรัมป์ได้ไม่ยาก
- ความต้องการพันธบัตรสหรัฐจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น: ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอาจจูงใจให้ธนาคารกลาง เช่น ธนาคารกลางจีนหรืออิรัก เพิ่มการถือครองดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรเพื่อช่วยพยุงค่าเงินของตนเอง
- ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้น: เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง กำลังซื้อจะลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดดูแข็งแกร่งกว่าความเป็นจริง
- ข้อได้เปรียบด้านโซนค่าเงิน: ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงอาจกระตุ้นให้บริษัทข้ามชาติจำนวนมากย้ายการดำเนินงานเข้าสู่สหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
พูดง่ายๆ คือ การทำให้ดอลลาร์อ่อนลงสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจในคราวเดียวกัน
ตลาดเริ่มสะท้อนสิ่งนี้แล้วหรือยัง?
พฤติกรรมของตลาดในปี 2025 สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างน่าสนใจ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ระดับราคาต่ำสุดที่ผ่านมา:
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น แต่ตลาดหุ้นยังพุ่งต่อเนื่อง
- บิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
- ราคาทองคำซื้อขายใกล้จุดสูงสุดตลอดกาล
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงการกำหนดมูลค่าทรัพย์สินใหม่ภายใต้ยุคใหม่ของ “การลดค่าเงิน”
และยุคนั้นกำลังถูกขับเคลื่อนอย่างเงียบๆ โดยประเทศเศรษฐกิจมหาอำนาจทั่วโลก
วัฏจักรหลายปีของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

กราฟนี้แสดงให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีรูปแบบวัฏจักรซ้ำทุกๆ 10 ปี โดยแต่ละรอบมักจบลงด้วยการกลับตัวอย่างรุนแรง และในวันนี้ DXY กำลังเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของการอ่อนค่าครั้งใหญ่รอบใหม่
ผลที่ตามมา? มีโอกาสที่ดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อไป โดยเฉพาะหากนโยบายกดค่าเงินของทรัมป์เริ่มเป็นรูปธรรม และธนาคารกลางสหรัฐฯ ถูกกดดันทางการเมืองให้ลดดอกเบี้ย
ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเดินหน้าเต็มสูบ
ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ เท่านั้นที่กำลังลดค่าเงินของตนเอง ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น ต่างก็ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน ได้แก่:
- การกดอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
- การแทรกแซงค่าเงิน
- การอัดฉีดสภาพคล่อง
- โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านหนี้ภาครัฐ
การดำเนินนโยบายร่วมกันเหล่านี้ผลักดันให้ตลาดทั่วโลกเข้าสู่โหมดยอมรับความเสี่ยงอย่างกว้างขวาง หุ้นพุ่งขึ้น ความต้องการพันธบัตรลดลง และสกุลเงินปลอดภัยอ่อนค่า
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ดอลลาร์กำลังกลายเป็นหมากตัวสำคัญในเกมเศรษฐกิจระดับโลก
ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับสกุลเงินหลักทั่วโลก

จากกราฟด้านบนจะเห็นได้ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงอย่างชัดเจน ไม่เพียงแค่เมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่รวมถึงสกุลเงินของประเทศพัฒนาแล้วด้วย
สารที่ได้จากภาพนี้คือ ตลาดโลกกำลังลดความเสี่ยงจากการถือครองดอลลาร์อย่างเงียบ ๆ เพราะคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าต่อไป
ผู้ชนะ? ทองคำแบบขาดลอย หากดอลลาร์ยังอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง เม็ดเงินลงทุนจำนวนมากอาจไหลเข้าสู่สินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต และสินทรัพย์ที่ไม่อิงดอลลาร์มากยิ่งขึ้น
ภาพทางเทคนิคของดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่ผ่านมา เราได้พูดถึงปัจจัยเชิงมหภาคและมุมมองโดยรวมแล้ว แต่เมื่อมองในเชิงเทคนิคแล้ว ดอลลาร์กำลังส่งสัญญาณอะไร?
ปรากฏว่าภาพทางเทคนิคก็สอดคล้องกับสิ่งที่เล่าไว้ก่อนหน้า

ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ขณะนี้กำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับแนวรับระยะยาวสำคัญที่บริเวณ 98 ถึง 99 หากไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับนี้ได้ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วงลงต่อไปที่แนวรับบริเวณ 9
ในเชิงเทคนิค สิ่งนี้แปลว่ารอบขาขึ้นของดอลลาร์กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะจบลงหากหลุดแนวรับดังกล่าวลงมา ก็อาจเป็นการยืนยันการเข้าสู่แนวโน้มขาลงหลายปี
และถ้าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับที่ทรัมป์ยังคงกดดันให้ลดดอกเบี้ยล่ะ? ดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้มาก
จะเกิดอะไรขึ้นกับสินทรัพย์ประเภทอื่นบ้าง?
ลองดูผลกระทบแบบโดมิโนที่อาจเกิดขึ้น:
- หุ้น: กำไรของบริษัทข้ามชาติอาจดูดีขึ้นเมื่อแปลงกลับเป็นดอลลาร์ที่อ่อนค่า ตลาดจะดูแข็งแกร่งกว่าความเป็นจริง
- ทองคำ: เมื่อค่าเงินกระดาษอ่อนค่าลง ทองคำจะดูมีเสน่ห์มากขึ้น ดอลลาร์อ่อนอาจเป็นเชื้อเพลิงให้ราคาทองพุ่ง
- คริปโต: บิตคอยน์ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ต้านค่าเงินกระดาษ จะได้อานิสงส์จากกระแสการลดค่าเงิน
- สินค้าโภคภัณฑ์: ราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรอาจปรับขึ้นเมื่อผู้ผลิตทั่วโลกตอบสนองต่อดอลลาร์ที่อ่อนลง
พูดอีกอย่างคือ ทรัมป์อาจไม่ได้แค่อ่อนค่าดอลลาร์ แต่กำลังเร่งการปรับมูลค่าสินทรัพย์โดยใช้ภาพเศรษฐกิจบูมบังหน้า
ข้อสรุปสุดท้าย: ทั้งหมดนี้คือแผนใช่หรือไม่?
แม้จะยากที่จะพิสูจน์เจตนา แต่สัญญาณที่ปรากฏนั้นชัดเจน:
- ทรัมป์กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
- วิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจของเขาเอื้อต่อดอลลาร์ที่อ่อนค่า
- พฤติกรรมของตลาดในปัจจุบันก็สอดคล้องกับทฤษฎีนี้
ดังนั้น ทรัมป์กำลังทำลายค่าเงินดอลลาร์โดยตั้งใจหรือเปล่า?
ถ้าไม่ถึงกับทำลาย ก็ดูเหมือนไม่ได้พยายามจะช่วยมันไว้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มกำไรบริษัท หรือปั่นราคาสินทรัพย์ ทุกอย่างบ่งชี้ว่าเป็นการลดค่าเงินอย่างมีกลยุทธ์
และตลาดก็ไม่ได้ต่อต้าน แต่ว่ากลับตอบรับมันด้วยซ้ำ
การเปิดเผยความเสี่ยง
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ Doo Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง